เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนคงจะเบื่อกับการที่ต้องผูกเชือกรองเท้าแบบเดิมบ้างล่ะ พอเห็นคนอื่นผูกเชือกรองเท้าออกมาได้เท่มาก เลยนึกอยากทำตามบ้าง แต่ยังไม่รู้ว่าควรผูกแบบไหน วันนี้เราจึงรวบรวมวิธีผูกเชือกรองเท้าที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับรองเท้าของคุณมาฝากกันครับ
Loop Lacing
Five-Pointed Star
ร้อยเชือกเข้ารูที่ 4 จับปลายเชือกให้เท่ากัน สอดเชือกด้านซ้ายเข้าที่รูล่างสุดทางด้านขวาและสอดเข้าไปในรูที่ 3 จากนั้นสอดเชือกเข้ารูด้านซ้ายให้เป็นกากบาท แล้วเก็บเชือกขึ้นข้างบน ต่อมาให้ร้อยเชือกด้านขวาเข้ารูล่างสุด สอดขึ้นด้านบนและลงไปที่รูสุดท้ายของด้านซ้ายเพื่อสร้างรูปดาว แล้วร้อยเก็บเชือกไว้ข้างในรองเท้า
Criss Cross Lacing
เรียกได้ว่าการผูกเชือกรองเท้าแบบ Criss Cross Lacing เป็นวิธีเบสิกเลยก็ว่าได้ แถมทำได้ง่ายอีกด้วย เริ่มจากร้อยเชือกเข้าที่รูล่างสุดและจับปลายเชือกให้เท่ากัน สอดเชือกด้านซ้ายเข้าไปในรูทางด้านขวา ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ จนถึงรูบนสุด แล้วผูกเชือกให้เรียบร้อย โดยวิธีนี้เหมาะกับรองเท้าผ้าใบและเชือกทุกแบบ แถมยังช่วยให้เชือกไม่หลุดง่าย
Straight Easy Lacing
เริ่มจากร้อยเชือกเข้าที่รูล่างสุดโดยให้ปลายเชือกอยู่ด้านในรองเท้า สอดปลายเชือกด้านขวาเข้าไปในรูฝั่งขวาและซ้ายเพื่อให้เป็นเส้นตรงพาดที่ตัวรองเท้า จากนั้นทำแบบเดิมกับเชือกฝั่งซ้าย สอดเชือกสลับข้างกันจนถึงรูสุดท้าย แล้วผูกเชือกตามปกติหรือจะขมวดปมไว้ใต้ลิ้นรองเท้าก็ได้
Lightning Lacing
ใครอยากเปลี่ยนรองเท้าของตัวเองให้ดูเฟี้ยวขึ้นแบบง่าย ๆ ละก็ คุณต้องชอบวิธีผูกเชือกรองเท้าแบบนี้แน่นอน เริ่มจากร้อยเชือกเข้ารูล่างสุดและจับปลายเชือกให้เท่ากัน สอดเชือกฝั่งซ้ายไปที่รูบนสุดด้านขวาแล้วพักเชือกไว้ ร้อยเชือกฝั่งขวาเข้าที่รูด้านซ้ายและสอดไปอีกฝั่งโดยให้เชือกพาดเฉียงลงมา ทำแบบเดิมไปเรื่อย ๆ จนสุด แล้วผูกเชือกให้เรียบร้อย
Bow Tie Lacing
เริ่มจากสอดเชือกเข้ารูที่ 2 ฝั่งซ้ายแลัวจับปลายเชือกให้เท่ากัน จากนั้นร้อยเชือกด้านบนลงล่างและล่างขึ้นบนให้เป็นกากบาท สอดเชือกด้านขวามาซ้ายให้เป็นเส้นตรง แล้วร้อยเชือกเพื่อทำรูปกากบาทที่ด้านบน เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
Footbag Lacing
การผูกเชือกรองเท้าผ้าใบแบบ Footbag Lacing เหมาะกับผู้ชายที่มีปลายเท้าใหญ่ เพราะจะช่วยคลายความแน่นบริเวณดังกล่าว เริ่มจากร้อยเชือกเข้าไปในรูช่องที่ 3 ของรองเท้าและดึงปลายเชือกให้เท่ากัน สอดเชือกทีละข้างลงมาที่รูด้านล่างโดยให้ปลายทั้งสองข้างออกมาด้านนอก จากนั้นให้สอดเชือกเข้ารูที่ 4 แล้วร้อยเชือกไขว้กันจนถึงรูสุดท้าย ส่วนจะเก็บเชือกไว้ด้านในหรือผูกเชือกแบบปกติก็แล้วแต่สไตล์ใครสไตล์มันเลยครับ
Starburst Lacing
การผูกเชือกรองเท้าด้วยวิธีนี้ จะช่วยให้ได้รองเท้าผ้าใบที่ดูเฟี้ยวฟ้าวไม่เหมือนใคร เริ่มจากร้อยเชือกเข้าไปในรูที่ 3 สอดเชือกแต่ละฝั่งขึ้นด้านบนและสอดไขว้ลงมาที่ด้านล่าง แล้วสอดกลับขึ้นด้านบนอีกรอบ จากนั้นสอดเชือกเข้าไปในรูบนสุดและผูกตามปกติ เท่านี้ก็เสร็จแล้ว
Zig Zag Lacing
เริ่มจากร้อยเชือกที่รูล่างสุด สอดปลายเชือกฝั่งซ้ายเข้าไปในรูรองเท้าด้านเดียวกันเพื่อให้เป็นรูเชือก ร้อยเชือกฝั่งขวาเข้ารูเชือกด้านซ้าย สอดเข้ากลับฝั่งเดิม ทำสลับข้างเรื่อย ๆ จนถึงรูบนสุด โดยวิธีนี้ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความกระชับให้รองเท้าเท่านั้น แต่ยังเสริมความเท่ให้รองเท้าได้อีกด้วย
Asterisk Lacing
สอดเชือกเข้าไปในรูล่างสุด จับปลายเชือกให้เท่ากัน ใช้ปลายเชือกด้านซ้ายและขวาสอดเข้าไขว้กันเข้าไปในรูที่ 3 เพื่อทำเป็นรูปกากบาท สอดเชือกจากด้านซ้ายพาดทับไว้ จากนั้นทำซ้ำที่ด้านบน เพียงแค่นี้ก็เสร็จแล้ว ซึ่งวิธีผูกเชือกรองเท้าแบบ Asterisk Lacing จะช่วยให้สวมใส่รองเท้าได้สบายยิ่งขึ้น
เป็นอย่างไรบ้างกับวิธีผูกเชือกรองเท้าทั้ง 10 แบบที่เรานำมาฝากกัน ใครชอบแบบไหนก็ลองผูกกันได้เลยครับ รับรองว่ารองเท้าของคุณจะดูเท่ไม่ซ้ำใครแน่นอน
https://www.facebook.com/Chicshoefasion