รองเท้าผ้าใบ รองเท้าแฟชั่น

วิธีผูกเชือกรองเท้า อัพเดทเทคนิคใหม่ ๆ ที่ช่วยให้รองเท้าคู่โปรดดูเฟี้ยวขึ้น


 รวมวิธีผูกเชือกรองเท้า 10 แบบ ที่สามารถทำเองได้ แถมช่วยให้รองเท้าดูเท่ไม่เหมือนใคร

           เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนคงจะเบื่อกับการที่ต้องผูกเชือกรองเท้าแบบเดิมบ้างล่ะ พอเห็นคนอื่นผูกเชือกรองเท้าออกมาได้เท่มาก เลยนึกอยากทำตามบ้าง แต่ยังไม่รู้ว่าควรผูกแบบไหน วันนี้เราจึงรวบรวมวิธีผูกเชือกรองเท้าที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับรองเท้าของคุณมาฝากกันครับ

Loop Lacing

วิธีนี้จะช่วยให้สวมรองเท้าผ้าใบได้แน่นและกระชับยิ่งขึ้น เริ่มต้นด้วยการร้อยเชือกรองเท้าไขว้กันจากล่างขึ้นบนตามปกติ จนเหลือรูด้านบนไว้ข้างละ 1 รู จากนั้นให้ร้อยเชือกเข้ารูดังกล่าวจากด้านนอกเข้าในเพื่อสร้างรูเชือก แล้วสอดเชือกแบบสลับข้างกันเข้าไปในรูเชือก ผูกเชือกให้แน่น เป็นอันเรียบร้อย

Five-Pointed Star
ร้อยเชือกเข้ารูที่ 4 จับปลายเชือกให้เท่ากัน สอดเชือกด้านซ้ายเข้าที่รูล่างสุดทางด้านขวาและสอดเข้าไปในรูที่ 3 จากนั้นสอดเชือกเข้ารูด้านซ้ายให้เป็นกากบาท แล้วเก็บเชือกขึ้นข้างบน ต่อมาให้ร้อยเชือกด้านขวาเข้ารูล่างสุด สอดขึ้นด้านบนและลงไปที่รูสุดท้ายของด้านซ้ายเพื่อสร้างรูปดาว แล้วร้อยเก็บเชือกไว้ข้างในรองเท้า

Criss Cross Lacing

เรียกได้ว่าการผูกเชือกรองเท้าแบบ Criss Cross Lacing เป็นวิธีเบสิกเลยก็ว่าได้ แถมทำได้ง่ายอีกด้วย เริ่มจากร้อยเชือกเข้าที่รูล่างสุดและจับปลายเชือกให้เท่ากัน สอดเชือกด้านซ้ายเข้าไปในรูทางด้านขวา ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ จนถึงรูบนสุด แล้วผูกเชือกให้เรียบร้อย โดยวิธีนี้เหมาะกับรองเท้าผ้าใบและเชือกทุกแบบ แถมยังช่วยให้เชือกไม่หลุดง่าย

Straight Easy Lacing

  เริ่มจากร้อยเชือกเข้าที่รูล่างสุดโดยให้ปลายเชือกอยู่ด้านในรองเท้า สอดปลายเชือกด้านขวาเข้าไปในรูฝั่งขวาและซ้ายเพื่อให้เป็นเส้นตรงพาดที่ตัวรองเท้า จากนั้นทำแบบเดิมกับเชือกฝั่งซ้าย สอดเชือกสลับข้างกันจนถึงรูสุดท้าย แล้วผูกเชือกตามปกติหรือจะขมวดปมไว้ใต้ลิ้นรองเท้าก็ได้

Lightning Lacing


  ใครอยากเปลี่ยนรองเท้าของตัวเองให้ดูเฟี้ยวขึ้นแบบง่าย ๆ ละก็ คุณต้องชอบวิธีผูกเชือกรองเท้าแบบนี้แน่นอน เริ่มจากร้อยเชือกเข้ารูล่างสุดและจับปลายเชือกให้เท่ากัน สอดเชือกฝั่งซ้ายไปที่รูบนสุดด้านขวาแล้วพักเชือกไว้ ร้อยเชือกฝั่งขวาเข้าที่รูด้านซ้ายและสอดไปอีกฝั่งโดยให้เชือกพาดเฉียงลงมา ทำแบบเดิมไปเรื่อย ๆ จนสุด แล้วผูกเชือกให้เรียบร้อย     

Bow Tie Lacing 


เริ่มจากสอดเชือกเข้ารูที่ 2 ฝั่งซ้ายแลัวจับปลายเชือกให้เท่ากัน จากนั้นร้อยเชือกด้านบนลงล่างและล่างขึ้นบนให้เป็นกากบาท สอดเชือกด้านขวามาซ้ายให้เป็นเส้นตรง แล้วร้อยเชือกเพื่อทำรูปกากบาทที่ด้านบน เป็นอันเสร็จเรียบร้อย 

Footbag Lacing 


การผูกเชือกรองเท้าผ้าใบแบบ Footbag Lacing เหมาะกับผู้ชายที่มีปลายเท้าใหญ่ เพราะจะช่วยคลายความแน่นบริเวณดังกล่าว เริ่มจากร้อยเชือกเข้าไปในรูช่องที่ 3 ของรองเท้าและดึงปลายเชือกให้เท่ากัน สอดเชือกทีละข้างลงมาที่รูด้านล่างโดยให้ปลายทั้งสองข้างออกมาด้านนอก จากนั้นให้สอดเชือกเข้ารูที่ 4 แล้วร้อยเชือกไขว้กันจนถึงรูสุดท้าย ส่วนจะเก็บเชือกไว้ด้านในหรือผูกเชือกแบบปกติก็แล้วแต่สไตล์ใครสไตล์มันเลยครับ 

Starburst Lacing


การผูกเชือกรองเท้าด้วยวิธีนี้ จะช่วยให้ได้รองเท้าผ้าใบที่ดูเฟี้ยวฟ้าวไม่เหมือนใคร เริ่มจากร้อยเชือกเข้าไปในรูที่ 3 สอดเชือกแต่ละฝั่งขึ้นด้านบนและสอดไขว้ลงมาที่ด้านล่าง แล้วสอดกลับขึ้นด้านบนอีกรอบ จากนั้นสอดเชือกเข้าไปในรูบนสุดและผูกตามปกติ เท่านี้ก็เสร็จแล้ว

Zig Zag Lacing


 เริ่มจากร้อยเชือกที่รูล่างสุด สอดปลายเชือกฝั่งซ้ายเข้าไปในรูรองเท้าด้านเดียวกันเพื่อให้เป็นรูเชือก ร้อยเชือกฝั่งขวาเข้ารูเชือกด้านซ้าย สอดเข้ากลับฝั่งเดิม ทำสลับข้างเรื่อย ๆ จนถึงรูบนสุด โดยวิธีนี้ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความกระชับให้รองเท้าเท่านั้น แต่ยังเสริมความเท่ให้รองเท้าได้อีกด้วย

Asterisk Lacing


สอดเชือกเข้าไปในรูล่างสุด จับปลายเชือกให้เท่ากัน ใช้ปลายเชือกด้านซ้ายและขวาสอดเข้าไขว้กันเข้าไปในรูที่ 3 เพื่อทำเป็นรูปกากบาท สอดเชือกจากด้านซ้ายพาดทับไว้ จากนั้นทำซ้ำที่ด้านบน เพียงแค่นี้ก็เสร็จแล้ว ซึ่งวิธีผูกเชือกรองเท้าแบบ Asterisk Lacing จะช่วยให้สวมใส่รองเท้าได้สบายยิ่งขึ้น

 เป็นอย่างไรบ้างกับวิธีผูกเชือกรองเท้าทั้ง 10 แบบที่เรานำมาฝากกัน ใครชอบแบบไหนก็ลองผูกกันได้เลยครับ รับรองว่ารองเท้าของคุณจะดูเท่ไม่ซ้ำใครแน่นอน


https://www.facebook.com/Chicshoefasion